การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
Information   ค้นหาข้อมูลเบื้องต้น
 
          ควรเริ่มต้นที่การศึกษาข้อมูลที่จำเป็นจนเข้าใจก่อน วิธีการผ่าตัดชนิดต่างๆ  ผลลัพธ์  ผลแทรกซ้อน วิเคราะห์ความต้องการของตนเองว่าชอบลักษณะใด ขนาดประมาณไหน อย่างไรก็ตามเนื่องจากลักษณะเต้านมจะแตกต่างกันไปไม่เหมือนกันในแต่ละคนจึงต้องให้แพทย์เป็นผู้ตรวจโดยละเอียดแล้วปรึกษาร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด     
           เลือกศัลยแพทย์ตกแต่ง โดยสามารถตรวจเชคได้จากเวปไซท์ของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย http://plasticsurgery.or.th/lst.php และสถานที่ผ่าตัด คลินิก หรือโรงพยาบาล ข้อดี ข้อเสีย
 
Consultation  การปรึกษาแพทย์
 
ประวัติที่แพทย์ต้องการ  ดังนี้
  •     ประวัติส่วนตัว การมีบุตร การให้น้ำนมบุตร น้ำหนัก ส่วนสูง
  •     โรคประจำตัว ประวัติการรักษา การผ่าตัดในอดีต ชื่อยาที่รับประทาน ใบรับรองแพทย์จากแพทย์โรคประจำตัว   
  •     ความต้องการเรื่องขนาดของหน้าอก  รูปทรง  อาจนำรูปภาพมาให้ศัลยแพทย์เป็นตัวอย่าง 
  •     หากเป็นเคสแก้ไขเสริมหน้าอก หากทำได้ควรหาข้อมูลชนิดและขนาดซิลิโคนเดิม วิธีการผ่าตัดเดิม จะช่วยในการ วางแผนแก้ไขได้ดีขึ้น
     เมื่อได้ปรึกษาแพทย์ แล้วทำการนัดวันผ่าตัด และวางแผนเลือกช่วงเวลาพักฟื้นที่ต้องการ (โดยทั่วไป หากผ่าตัดแผลราวนมและผ่าตัดรักแร้ด้วยการส่องกล้อง สามารถกลับไปทำงานเบาๆได้ภายใน 3 วัน  หากเป็นทางรักแร้แบบวิธีเดิม อาจจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน และห้ามยกของหนัก งดเล่นกีฬาหรือฟิตเนส 1 เดือน การขับรถได้หลังจาก 1 สัปดาห์ขึ้นไป การอุ้มลูกทำได้บ้างเล็กน้อยหลัง 3 วัน การมีประจำเดือนไม่เป็นข้อห้ามในการผ่าตัด)
 
 
Pre-operative  preparation  
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
(การปฏิบัติก่อนและหลังผ่าตัดขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์แต่ละท่าน)

 
          เตรียมเครื่องใช้ส่วนตัว เสื้อเชิ้ตหลวมติดกระดุมหน้า เพื่อให้ใส่สะดวกในวันออกจากโรงพยาบาล แผ่นซิลิโคนปิดหัวนม  (ซื้อได้จากร้านขายชุดชั้นในที่ห้างสรรพสินค้า )
  • ไม่จำเป็นต้องเตรียมบราก่อนผ่าตัด เนื่องจากขนาดยังไม่คงที่        
  • งดยาหรืออาหารเสริมที่ไม่จำเป็นทุกชนิด 1 สัปดาห์  
  • งดยา Aspirin หรือชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด,  พริมโรสออยล์  1 สัปดาห์
  • งดยา Isotretinoin หรือ Acnotin ที่ใช้รักษาสิว ควรงดอย่างน้อย 1 –2 สัปดาห์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงโอกาสติดเชื้อไข้หวัด ซึ่งอาจจะทำให้มีเสมหะมากไม่สามารถดมยาสลบได้
  • อาบน้ำ สระผมให้สะอาด ในคืนก่อนผ่าตัด
  • ในวันนัดผ่าตัด ให้งดน้ำ งดอาหารหลังเที่ยงคืน หรือก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง  
                             
 
Post-operative care
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด
(การปฏิบัติก่อนและหลังผ่าตัดขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์แต่ละท่าน)

 
1. การนัดตรวจหลังผ่าตัด /   การตัดไหม
        นัดตรวจและตัดไหม  7 วัน  และนัดพบแพทย์อีก  1 เดือน และ 6 เดือน  หลังจากนั้น ปีละครั้ง  

2. การดูแลหลังผ่าตัด ได้แก่     
        1. การใส่บรา
        2. ท่านอน   
        3. การป้องกันแผลเป็นนูน 
        4. การทำงานและการยกของ หรือออกกำลังกาย
        5. การนวดเต้านม
        6. การตั้งครรภ์และให้นมบุตร
        7. การตรวจมะเร็งเต้านม 
        8. การับประทานอาหาร

   2.1 การใส่บรา
             •  บราที่แนะนำคือ บราชนิดไม่มีโครง (สปอรตบรา) เลือกซื้อขนาดที่พอดี ใส่สบาย ในวันที่สามหลังผ่าตัดหลังจากที่สามารถเคลื่อนไหวได้คล่อง ไม่มีอาการปวด  ตอนกลางคืนสามารถโนบราได้

   2.2 ท่านอน
             •  นอนหงายปกติ ไม่จำเป็นต้องนั่งนอน ตะแคงได้ปกติ งดนอนคว่ำ 3 เดือน
        
   2.3 การดูแลแผลเป็น
             •  ปิดแผ่นซิลิโคนที่แผลเพื่อลดโอกาสเกิดแผลนูนเป็นเวลาอย่างน้อย  6 เดือน   
             • สังเกตดูแผลบ่อยๆ อย่างน้อย 2 ปี  หากเกิดรอยแผลนูนต้องรีบปรึกษาแพทย์ 

3.  การนวดเต้านม
        ขึ้นกับซิลิโคนแต่ละชนิด หากใช้ซิลิโคนผิวทราย ไม่จำเป็นต้องนวด หากใช้ซิลิโคนผิวเรียบ ให้นวดเบาๆหลังผ่าตัด ตามคำแนะนำของแพทย์

4. การตั้งครรภ์และการให้นมบุตร 
        หลังผ่าตัด 3 เดือน สามารถให้ตั้งครรภ์ได้ การให้นมบุตรให้ได้ตามปกติ เพราะการเสริมไม่เกี่ยวข้องกับต่อมน้ำนมซิลิโคนจะอยู่ชั้นลึกกว่า 

5. การตรวจมะเร็งเต้านม, การเกิดมะเร็งเต้านม
        ตรวจมะเร็งได้ตามปกติ สามารถทำ Mammogram (X-ray เต้านม) ได้การเสริมหน้าอกไม่กระตุ้นให้เกิดมะเร็ง     

6. การรับประทานอาหาร ควรงดแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์ หลังผ่าตัด

 
 
 
 
 
 
 

Copyright 2012-2017 All right reserved. www.breastgossip.net แหล่งรวบรวมประสบการณ์จริงการผ่าตัดเสริมหน้าอก พูดคุยกับนักกายภาพบำบัด แก้ไขปัญหาคาใจเรื่องเต้านม และทุกเรื่องนมๆ
Engine by MAKEWEBEASY